ระบบไฟฟ้า 1 เฟส กับ 3 เฟส

ระบบไฟฟ้า 1 เฟส (Single-phase) กับ 3 เฟส (Three-phase) แตกต่างและสำคัญแค่ไหน?

มาทำความรู้จักกับระบบไฟฟ้าของบ้านหรืออาคารของคุณได้ง่ายๆ
 
 

 

ระบบไฟฟ้า 1 เฟส (Single-phase)

 

ระบบไฟฟ้าเฟส 1 เป็นระบบไฟฟ้าที่เราใช้กันทั่วไปในครัวเรือน มีแรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ 220V (โวลต์) มีความถี่ 50 Hz (เฮิร์ซ) โดยมีสายไฟประกอบอยู่ 2 สาย สายหนึ่งจะเป็นสายที่กระแสไฟฟ้าไหลอยู่ (Current line) ส่วนอีกสายจะเป็นสายที่เดินไว้แต่ไม่มีกระแสไฟ (Neutral line) ต่อเข้ากับตู้เมนไฟฟ้าในบ้าน สำหรับระบบไฟฟ้า 1 เฟสค่าใช้จ่ายในการขอติดตั้งและค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่สูงมากและกำลังไฟครอบคลุมการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันภายในครัวเรือนได้ครับ

 

ระบบไฟฟ้า 3 เฟส (Three-phase)

 

ระบบไฟฟ้า 3 เฟส เป็นระบบไฟฟ้าที่เหมาะกับสถานที่ที่ต้องการใช้ไฟฟ้ามากๆ เช่น อาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม บ้านหรืออาคารขนาดใหญ่ โดยมีแรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ 380V(โวลต์) ความถี่ 50 Hz (เฮิร์ซ) มีสายไฟประกอบอยู่ 4 สาย โดยสายไฟ 3 สายเป็นสายที่กระแสไฟฟ้าไหลอยู่ ส่วนอีก 1 สายเป็นสายที่เดินไว้แต่ไม่มีกระแสไฟ ต่อเข้ากับตู้เมนไฟฟ้า การติดตั้งก็จะมีราคาสูงกว่านะครับ เนื่องจากมีทั้งค่าติดตั้งและค่าประกันไฟฟ้า แต่สามารถประหยัดค่าใช้ไฟฟ้าได้ในระยะยาวฉะนั้นบ้านหรืออาคารที่ติดตั้ง ระบบไฟฟ้า 3 เฟส จึงควรเป็นบ้านหรืออาคารที่ค่อนข้างใหญ่ มีการใช้ไฟฟ้าหลายจุดและเป็นปริมาณมากจึงจะคุ้มค่าที่จะติด ถ้าเป็นบ้านหรืออาคารที่มีขนาดเล็กและมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าไม่มากควรติดตั้งระบบ ไฟฟ้าเฟสเดียวก็เพียงพอแล้วครับ

 

หลักการทำงานของระบบไฟฟ้า 1 เฟส และ 3 เฟสต่างกันอย่างไร ?

ระบบไฟฟ้า 1 เฟส จะมีช่องเสียบอยู่ 2 ช่อง ถ้าเอาไขควงสำหรับตรวจกระแสไฟฟ้าลองวัดดูจะเห็นได้ว่าช่องหนึ่งจะมีไฟแดงปรากฏ แสดงว่าไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน แต่เมื่อเวลาใช้งานกับหลอดไฟหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าจำเป็นต้องใช้ร่วมกันทั้ง 2 สายเพื่อให้กระแสไฟฟ้าครบวงจรส่วนบางแห่งที่เห็นปลั๊กไฟมี 3 ช่องนั้นยังเป็นระบบไฟฟ้า แบบ 1 เฟสเหมือนกันแต่ช่องที่เพิ่มขึ้นมานั้นเป็นช่องที่ต่อกับสายดิน (Ground) เพื่อให้กระแส ไฟฟ้าไหลลงดินเวลาเกิดไฟรั่วเป็นการเพิ่มความปลอดภัย และปลั๊กของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะใช้กับ ระบบสายดินนี้จะเป็นปลั๊กแบบ 3 ขาซึ่งในต่างประเทศถือเป็นระบบมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไปครับ

ระบบไฟฟ้า 3 เฟส จะไม่สามารถนำมาใช้กับระบบแสงสว่างหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าแต่ละชิ้นได้โดยตรง แต่เป็นการนำไฟฟ้า 3 เฟสมาแบ่งแยกให้เป็นระบบไฟฟ้า 1 เฟส 3 ชุด แล้วกระจายไปตามจุดต่างๆ ที่มีการใช้ไฟฟ้า ผิดกับแบบ 1 เฟส ที่ใช้งานอยู่เพียงเฟสเดียว ทำให้ไฟฟ้าที่ใช้มีปริมาณสูงและค่าไฟจึงสูงตามนั่นเองครับ

 

บ้านหรือธุรกิจของท่านใช้ไฟกี่เฟส ?

โดยสามารถสังเกตได้จากตัวเลขในช่องบนมิเตอร์ เช่น 5(15)A หมายความว่า เป็นมิเตอร์ไฟขนาด 5 แอมป์ สามารถใช้ไฟได้มากถึง 15 แอมป์ โดยขนาดของมิเตอร์ไฟ มีดังนี้ครับ

5(15) แอมป์ 1 เฟส 2 สาย

15(45) แอมป์ 1 เฟส 2 สาย

30(100) แอมป์ 1 เฟส 2 สาย

15(45) แอมป์ 3 เฟส 4 สาย

30(100) แอมป์ 3 เฟส 4 สาย

 

ขอบคุณความรู้ดีๆเกี่ยวกับไฟฟ้าจากเพจ baanenergy ครับ ^_^  สำหรับการเลือกใช้ตู้แช่ขนาดมาตรฐานทั่วไปเช่น ตู้โชว์เค้ก, ตู้แช่เคาน์เตอร์สเตนเลส, ตู้แช่ทรงยืนสเตนเลส, ตู้แช่น้ำหรือตู้แช่เครื่องดื่ม, ตู้ไวน์, ตู้ท๊อปปิ้ง หรือตู้แช่แข็ง Chest freezer ต่างๆ สามารถใช้ได้ทั้งระบบไฟ 1 เฟสของบ้านหรืออาคารทั่วไป และอาคารที่เดินไฟ 3 เฟสครับ ส่วนตู้แช่ที่มีขนาดใหญ่ เช่นตู้แช่เปิดหน้า open type ขนาดใหญ่, ห้องเย็น, เตาอบไฟฟ้า, เครื่องล้างจานชนิดอุโมงค์ หรือเครื่องทำน้ำแข็งขนาดใหญ่ ที่มีโหลดการใช้ไฟสูงๆ มักจะใช้ไฟ 3 เฟสครับ อย่างไรก็ดีก่อนทำการสั่งซื้อ ทีมงานเดอะ เมเปิ้ล แนะนำผู้ซื้อควรขอข้อมูลการใช้พลังงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าในร้าน ไปให้ทีมวิศวกรที่ดูแลโปรเจคช่วยวางแผนการใช้มิเตอร์, เบรคเกอร์, สายไฟต่างๆให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ในร้านครับ ^_^

 

ส่วนเพื่อนๆคนไหนกำลังมองหาตู้แช่เคาน์เตอร์ ตู้แช่ทรงยืน ตู้แช่เครื่องดื่ม ตู้เค้ก ตู้ไวน์ อ่างซิงค์สเตนเลส ถังน้ำแข็ง และอุปกรณ์สเตนเลสที่เกี่ยวข้องสำหรับเตรียมเปิดร้าน สามารถสอบถามรายละเอียดตู้แช่และโปรสุดคุ้มจากทางเราได้นะครับ ติดต่อ ฝ่ายขาย โทร.  062-4644455, 094-9595536 หรือ Line : @maplecool ได้เลยครับ
 
Visitors: 118,095