COAL Bistro

COAL Bistro ราชพฤกษ์ การันตีความอร่อยโดยเชฟชื่อดังอย่าง เชฟ Willment Leong เชฟบาส และเชฟมายด์  อาหารแต่ละจานผ่านการปรุงโดยเน้นความอร่อยจากธรรมชาติของวัตถุดิบนั้น ๆ ทั้งเมนูคาวหวาน เชฟทำเองแบบโฮมเมด  ไปดูกันค่ะว่ามีเมนูอะไรนำเสนอบ้าง  

 

 

ร้าน COAL Bistro (โคล บิสโทร) ตั้งอยู่บน ถ.ราชพฤกษ์  เปิดมื้อเที่ยงและมื้อเย็น หยุดวันจันทร์  Concept ของร้านคือ Coal ซึ่งมาจากคำว่า Charcoal หรือถ่านที่นำมาใช้ย่างสเต็ก   ที่ร้านจะมีถ่านหลากชนิดเพื่อนำมาปรุงอาหารในลักษณะแตกต่างกัน  นอกจากถ่านแล้วยังมีไฮไลท์อีกอย่างก็คือ เทคนิคการ smoke หรือรมควัน  สเต็กแต่ละชิ้นจะผ่านการย่างแล้วไปสโมค ให้ได้กลิ่นหอม  อันนี้บุ๊งชิมแล้วยืนยันเลยว่า แค่เอามาวางที่โต๊ะ ก็ได้กลิ่นหอมเตะจมูกทันที ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อหมู หรือแม้แต่อาหารทะเลประเภทต่าง ๆ

 

 


 

อีกหนึ่งความเป็นเอกลักษณ์ของ COAL Bistro ก็คือ เป็นร้านที่รวมเชฟฝีมือดี ชื่อดังไว้หลายท่าน ทั้งเชฟ Willment Leong (วิลแมนท์ ลีอง) เชฟบาส และเชฟมายด์  ดังนั้นอาหารแต่ละจานกว่าจะผ่านออกมาเสิร์ฟให้ลูกค้า  เชฟได้คิดและคัดสรรมาอย่างดี  

 

 

 

 ที่ยืนอยู่ข้างบุ๊งคือ เชฟบาส นั่นเอง  เดี๋ยวลองกดเข้าไปดูในคลิปนะคะ จะมีเสียงเชฟบาสเป็นคนอธิบายอาหารแต่ละจานให้ฟัง  ว่าจานไหนเป็นอะไร ใส่อะไรบ้าง  

 

 

 

 

บุ๊งไปชิมที่ร้านนี้ 2 ครั้งแล้ว  วันที่ไปเป็นวันแม่ซึ่งตรงกับวัน Grand Opening พอดี  บุ๊งก็เลยพาสองหนุ่ม Otto & Owen ไปด้วย  

 

 

 

 

 

 

อันดับแรกก็ต้องสั่งให้ลูกกินก่อนเนอะ   ที่ร้าน COAL นอกจากเมนูสเต็กแล้ว  ก็มีเมนูที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง และมีอาหารสำหรับเด็ก ๆ กินเช่นกัน  เพราะงั้นบุ๊งถือว่าเป็นร้านอาหารที่เหมาะสำหรับทุกวัยและทุกคนในครอบครัว  ที่ดีงามคือมีความ step up ขึ้นไปอีกขั้น เพราะเมนูที่สั่งเป็นเมนูธรรมดา แต่การปรุงอาหารไม่ได้ทำแบบปกติทั่วไป  ในแต่ละจานมีความพิเศษและเชฟเน้นคุณภาพเป็นอย่างมาก  อันนี้เราชอบ

 

Carbonara 240 B  คาร์โบนาร่าที่เชฟทำแบบ authentic Italian food ใส่ไข่แดงและชีส  ไม่ได้ใส่ครีมเพื่อให้ข้น มัน แต่อย่างใด  เส้นพาสต้าที่ใช้คือ rigatoni ลักษณะเป็นเหมือนท่อกลวงขนาดใหญ่  เสิร์ฟพร้อม Poached egg ที่พอเจาะปุ๊บ ไข่แดงก็เยิ้มออกมาเลย  เวลาจะกินก็คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากันก่อนนะคะ  

 

 

 

Fish & Chips 380 B  ฟิชแอนด์ชิพส์  เนื้อปลาคอดล้วนชุบแป้งทอด  ทอดได้กรอบมาก  ถึงจะวางไว้นานก็ยังกรอบอยู่ เสิร์ฟพร้อม French Fries, Sweet Potato Fries และ tartar sauce 

 

 

 

Beef & Sweet Fries 240 B  จานนี้ recommend มากกกกกกกกกกกกก อร่อยมาก ๆ บุ๊งมาสองครั้ง สั่งทั้งสองครั้งเลย  เชฟใช้เนื้อวากิวเอามาทำเป็นแบบเนื้อแดดเดียว แต่ไม่เหนียว ราดด้วยซอสลาบมายองเนส  มีความเปรี้ยวนิด เผ็ดหน่อย กินคู่กับเนื้อ และฟรายส์มันหวาน อร่อยมากกกกกกกกกกก  

 

20 Mins Seafood Cream Soup 240 B  ซุปทะเลแบบเข้มข้น แนว bisque แต่เชฟใช้อาหารทะเลหลายอย่างในการทำน้ำสต๊อก เสิร์ฟพร้อมปลาหมึกและกุ้งลายเสือ

 

 

 

Forest Mushroom Soup 160 B  ซุปข้นเห็ด 3 อย่าง  โดยเชฟนำเห็ดไปผัดก่อนแล้วค่อยไปทำซุป  น้ำซุปมีความเข้มข้นหอมกลิ่นเห็ด เสิร์ฟพร้อมขนมปังโรยด้วยเห็ดผัดและชีส 

 

 

 

 

Onion Soup 180 B  ซุปหัวหอมทำแบบดั้งเดิมสไตล์ฝรั่งเศส  น้ำซุปมีสีเข้ม  หอมใหญ่พอเอามาทำซุปแบบเคี่ยวนานหลายชั่วโมงก็จะถูกดึงรสหวานธรรมชาติออกมา  กลิ่นหอม  เสิร์ฟพร้อมขนมปังด้านบนคือชีส Gruyere 

 

 

 

 

Calamari Tempura 240 B  อีกหนึ่งเมนูที่บุ๊งชอบมาก  ปลาหมึกชุบแป้งสูตรพิเศษของทางร้าน  ซึ่งวางไว้นานก็ยังกรอบ  พิสูจน์ความกรอบได้จากในคลิป ที่สำคัญเสิร์ฟพร้อมซอสมายองเนสหมึกดำแบบ L’aioli ที่มีรสชาติเผ็ดนิด ๆ อร่อยมาก ๆ ๆ ๆ ๆ 

 

 

 

 

 

 

STEAKS

 

Rib Eye (300 g) 1,200 B  สเต็กเนื้อริบอาย เป็นเนื้อวัวแองกัสนำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย (Premium Angus 150 days grain fed) ชิ้นนี้น้ำหนัก 300 กรัม  เชฟย่างเนื้อจนมีสีครัสท์สวยงาม  แล้วนำเนื้อไปรมควันหรือ smoke ทำให้สเต็กมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์  steak ที่ดี ไม่ต้องการซอส ไม่ต้องการอะไรเยอะ  เพียงแค่โรยเกลือ พริกไทยดำเล็กน้อยก็อร่อยแล้ว

 

 

 

 

 

ดูความ juicy ของเนื้อสิStriploin (300 g) 1,100 B  นอกจากส่วนริบอาย  ก็มีสเต็กสตริปลอยน์  ซึ่งเป็นแบล็คแองกัสนำเข้าจาก Australia เช่นกัน  และกรรมวิธีการปรุงก็คือการนำเนื้อไปย่างบน grill และต่อด้วยการ smoke เช่นกัน

 

 

 Short Rib 620 B  เนื้อวัวติดซี่โครงที่เชฟนำไปตุ๋นเป็นเวลาหลายชั่วโมง  จนเนื้อเปื่อยนุ่ม จานนี้ก็อร่อยมากเช่นกัน  ใครชอบเนื้อนุ่ม ๆ แนะนำจานนี้ค่ะ 

 

 

 

 

 

 “LAND” Tasting Sampler for One 1,500 B  สำหรับคนที่คิดไม่ออก เลือกไม่ได้ว่าจะกินสเต็กหรือเนื้ออะไรดี  งั้นลองสั่งจานนี้มาค่ะ  เพราะเป็นจานรวมเนื้อสัตว์บก (red meat) 4 แบบ  ได้แก่ เนื้อวัวส่วน striploin, เนื้อแกะออสเตรเลีย, อกเป็ด, และซี่โครงหมู BBQ 200 g

 

 

 

 

Home Smoked Salmon Fillet 350 B  เมนูไฮไลท์  แซลมอนจานนี้ไม่ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย  ดูเหมือนไม่มีอะไร  แต่พอแค่เอาส้อมหั่นลงไปเท่านั้น ก็จะได้สเต็กแซลมอนทีี่เนื้อนุ่มละลายในปาก  แถมมีกลิ่นหอมรมควัน  คือเป็นจานที่ทุกคนที่ไปกินด้วยกัน จิ้มเอา ๆ ๆ ๆ และหมดด้วยความรวดเร็วมาก  เมนูนี้แนะนำสุด ๆ ค่ะ 

 

 

 

 

 

Spaghetti Bolognese 260 B  สปาเก็ตตี้ซอสเนื้อสับซึ่งเป็นสูตรพิเศษของเชฟ  อร่อยยยยย  เสิร์ฟพร้อมชีส parmesan และ sun-dried tomato
 

 

 

 

 

Fettuccine Truffle Cream, Grilled US Scallops 420 B  เส้นเฟตตูชินีผัดกับซอสครีมเห็ดทรัฟเฟิลกลิ่นหอมเตะจมูก  เสิร์ฟพร้อมหอยเชลล์นำเข้าจากอเมริกาตัวใหญ่  จานนี้มีแต่คนชมอีกเช่นกันเพราะต้วซอสหอมมาก

 

 

 

 

 

 

Truffle Fries with Shredded Parmesan 180 B  จานนี้บุ๊งสั่งมาเอง พอมาวางปุ๊บ คนอื่นหยิบกินหมดด้วยความรวดเร็วมาก บุ๊งได้กินไม่กี่ชิ้นเอง

 

 

 

 

 

 

Mac & Cheese 220 B  มักกะโรนีอบชีส  ด้านล่างเป็นมักกะโรนีผัดกับซอส bechamel มีความครีมมี่ มีเบคอนและโรยด้วยชีสมอสซาเรลลา  จานนี้บุ๊งว่าจืดไปนิดนึง เพิ่มเกลือแล้วอร่อยเลย

 

 

 

Wagyu Beef Burger 480 B  เบอร์เกอร์เนื้อวากิวชิ้นใหญ่มากกกก  เนื้อวากิวน้ำหนักประมาณ 220 กรัม โปะด้วยชีส 3 อย่าง เสิร์ฟบนขนมปังชาร์โคลสีดำ ผักสดและฟรายส์

 

Pumpkin 150 B  ฟักทองจานนี้มีทั้งหมด 3  ส่วน  ส่วนล่างสุดคือ pumpkin puree หรือฟักทองบดผสมเนยฝรั่งเศส ได้รสหวานธรรมชาติจากฟักทอง  ส่วนที่สองคือ ฟักทองย่างกับเตาถ่าน มีกลิ่นหอม  ส่วนที่ 3 คือฟักทองทอดกรอบ  เรียกได้ว่าหนึ่งจานมี 3 texture ด้วยกัน

 

 

 

 

Muchroom 220 B  จานนี้ก็มีส่วนประกอบเป็นเห็ด 3 แบบด้วยกัน  ล่างสุดคือเห็ด portobello ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทยแล้วนำไปย่างจนหอม นุ่ม  ตามมาด้วย mushroom ragout หรือ เห็ด 3 ชนิดนำมาผัดกับครีมเล็กน้อย  ด้านบนสุดคือเห็ดแชมปิญองชุบเกล็ดขนมปังทอดกรอบ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Tofu Homemade in Garden 220 B  เต้าหู้ญี่ปุ่นแบบนุ่มที่ทำเองแบบโฮมเมดเสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดสไตล์ญี่ปุ่น และผักสดหลายชนิด  จานนี้ได้อารมณ์ฟิวชั่นผสมผสานตะวันตกและตะวันออก

 

 

 

 

 

 

 Desserts

 

 

 

 

ขนมหวานของร้าน COAL ทำเองหมดทุกอย่าง  แม้กระทั่งไอศกรีมก็ทำเองแบบ homemade  โดยเฉพาะไอศกรีมวนิลามีความเหนียวอร่อยมาก

 

 

 

Crème Brûlée 220 B  เครมบรูเล่วนิลาที่เชฟใช้วนิลาแท้มาทำขนม  เนื้อเนียนนุ่ม ด้านบนโรยน้ำตาลทรายแล้วเบิร์นด้วยไฟให้เป็นแผ่นกรอบบาง  เสิร์ฟคู่กับไอศกรีม Yogurt โฮมเมด และ berry compote

 

 

 

 

 

 

Homemade Ice Cream 250 B  ไอศกรีมโฮมเมด 2 รส ได้แก่ Salted Vanilla และ Yogurt ขอบอกว่าไอศกรีมวนิลาเนื้อเหนียว อร่อยมากกกก ส่วนรสโยเกิร์ตจะมีความเปรี้ยวนิด ๆ เสิร์ฟอยู่บน Chocolate Crumble กรอบ ๆ และเบอร์รี่สด

 

 

 

 

 

 

Pan Cookies 250 B  จานนี้กึ่ง ๆ ระหว่าง Soft Chocolate Chip Cookies และ Blondie เสิร์ฟแบบร้อน เนื้อคุกกี้หนึบหนับ โปะด้วยไอศกรีมวนิลา 

 

 

 

 

 

 

Warm Flourless Chocolate Lava Cake 220 B  เค้กช็อคโกแลตลาวาทำจาก dark chocolate แท้นำเข้า เสิร์ฟกับ Crumble berry compote และไอศกรีมวนิลาโฮมเมด

 

 

 

ขอย้ำว่า เมนู Salmon เป็นอะไรที่ต้องลอง ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

 

 

 

ขอขอบคุณบทความดีๆจาก http://www.closetoheavens.com/restuarant-review/steakhouse/coal-bistro-ratchapruk/

 

ขอขอบคุณคุณศิลมน บจก.โคล กรุ๊ป ร้าน Coal Bistro & Bar ที่ไว้ใจใช้ตู้แช่จากทางร้านเดอะ เมเปิ้ลครับ ^_^

Visitors: 123,832