เพื่อนๆหลายคนชอบทานไวน์ และไวน์ดีๆมักมีราคาสูง เวลาซื้อมาเราควรเก็บรักษาคุณภาพไวน์ให้มีรสชาติและกลิ่น ให้ได้ตามมาตรฐานผู้ผลิตให้ได้นานที่สุดครับ วันนี้แอดเลยมาชวนเพื่อนๆคุยในหัวข้อปัจจัยที่ส่งผลต่อการเก็บรักษาไวน์กันนะครับ ว่ามีอะไรบ้าง ^_^
1. การปิดจุกคอร์ก (Cork) ของไวน์ : จุกคอร์ก (Cork) ใช้สำหรับป้องกันการเสียรสชาติของไวน์
2. อุณหภูมิ: อุณหภูมิห้องที่มีความเย็นเหมาะสม : อุณหภูมิมีผลอย่างมากต่อการเก็บรักษาไวน์ โดยปกติการเก็บไวน์ควรเก็บในอุณหภูมิห้อง แต่ควรตรวจสอบสภาพอากาศของอุณหภูมิห้องก่อนการเก็บเช่นกัน อุณหภูมิของไวน์ขาวจะต้องต่ำกว่าไวน์แดง ซึ่งการเก็บไวน์แดงจะต้องมีอุณหภูมิห้องประมาณ 12 – 18 องศาเซลเซียส เพื่อคงรสชาติของไวน์ไม่ให้ฝาดเฝื่อน เปรี้ยวโดด หรือมีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์มากเกินไป
3. แสง : แสงน้อยดีต่อไวน์ที่สุด แสงที่ตกกระทบกับไวน์และขวดไวน์มีผลต่อการเปลี่ยนสีและรสชาติของไวน์ โดยไวน์แดงมักจะนิยมผลิตขวดให้มีสีทึบหรือสีดำเพื่อป้องกันการเข้ามาของแสงแดด โดยเฉพาะ UV ที่จะซึมเข้าสู่น้ำของไวน์และเร่งการบ่ม ทำให้ไวน์สุกเร็วกว่าที่ควร ส่งผลให้รสชาติของไวน์แดงผิดเพี้ยนไป
4.ความชื้น : ความชื้นในการเก็บไวน์ส่งผลต่อ 2 ส่วน คือ จุกคอร์กและฉลากไวน์ โดยความชื้นที่น้อยกว่า 50% จุกคอร์กจะเสื่อมสภาพ แห้งกรอบ และยุบตัว ทำให้อากาศสามารถผ่านเข้าไปและทำลายสีสัน รสชาติ และกลิ่นธรรมชาติของไวน์ รวมไปถึงการที่ตะกอนของจุกคอร์กอาจร่วงลงไปในไวน์ ทำให้ไวน์เสียง่ายขึ้น ขณะที่หากความชื้นมากกว่า 70% จะทำให้ฉลากไวน์เปื่อยยุ่ย
5. กลิ่น: กลิ่นอื่นไม่ควรปนในที่ที่เก็บไวน์ การเก็บรักษาไวน์จะต้องระวังเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ เนื่องจากไวน์สามารถดูดซับกลิ่นได้ โดยเฉพาะไวน์ที่มีการเปิดดื่มแล้ว การเข้ามาของกลิ่นจะทำให้ไวน์มีกลิ่นผิดเพี้ยนจากเดิม และอาจส่งผลต่อรสชาติของไวน์ด้วย ก่อนการเก็บรักษาจึงควรระวังเรื่องกลิ่นอับ และเมื่อเก็บไวน์ที่เปิดดื่มแล้วควรปิดให้สนิท ป้องกันการเกิดกลิ่นภายในขวดไวน์
6. การสั่นสะเทือน: ไวน์ชอบความนิ่งของน้ำไวน์ภายในขวด ไวน์ที่สามารถคงคุณภาพเอาไว้ได้คือไวน์ที่มีการสั่นสะเทือนน้อย การเก็บไวน์จึงควรเก็บในที่ที่ไม่ก่อให้เกิดการสั่นของพื้นผิว และควรเก็บโดยหันก้นขวดไวน์ไว้ข้างนอก เพราะเมื่อจะดื่มสามารถอ่านรายละเอียดได้เลย ไม่ต้องหยิบขวดไวน์ออกมา การเก็บในตู้เย็น ควรตรวจสอบระดับความสั่นสะเทือนของตู้เย็นก่อน เพื่อให้ไวน์สามารถบ่มในขวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนไวน์ที่เราเปิดรับประทานแล้วนั้นจะมีออกซิเจนเข้าไปเจือปนในระหว่างการเปิดดื่ม ดังนั้นควรดื่มให้หมดในเวลา 3 – 5 วัน เพราะหลังจากนี้รสชาติของไวน์อาจเปลี่ยนไปได้ ขวดไวน์ที่เปิดแล้วควรมีการเก็บรักษาไวน์ ดังนี้
1. ปิดจุกไวน์ให้สนิทด้วยจุกคอร์ก หรือสต็อเปอร์ (Stopper) เพื่อป้องกันออกซิเจนเข้าไปในขวดมากจนเกินไป
2. แช่ในตู้เย็น หรือตู้แช่ไวน์ เพื่อรักษาอุณหภูมิให้พอดีกับไวน์ อาจตั้งไว้ในอุณหภูมิห้องหากอุณหภูมิไม่เกิน 18 องศาเซลเซียส
3. ตั้งไวน์ให้นอนไปกับพื้น ให้จุกคอร์กสัมผัสกับไวน์ เพื่อเพิ่มการป้องกันอากาศที่อาจเข้าไปในขวดไวน์
ส่วนเพื่อนๆคนไหนกำลังมองหาตู้ไวน์ทั้งแบบตู้ไวน์สำเร็จหรือตู้ไวน์สั่งผลิตตามแบบ หรือตู้แช่ ตู้แช่เครื่องดื่ม ตู้เค้ก และอุปกรณ์สเตนเลสที่เกี่ยวข้องสำหรับเตรียมเปิดร้าน สามารถสอบถามรายละเอียดตู้แช่และโปรสุดคุ้มจากทางเราได้นะครับ ติดต่อ ฝ่ายขาย โทร. 062-4644455, 094-9595536 หรือ Line : @maplecool ได้เลยครับ
ส่วนเพื่อนๆที่กำลังมองหาตู้ไวน์ ราคาประหยัด คุณภาพดี สามารถกดเข้าชมได้ที่นี่ครับ